您现在的位置是:综合 >>正文
รมว.ทส.หารือทูตศรีลังกาฯ ประสานความร่วมมือดูแล"พลายประตูผา
综合1986人已围观
简介วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย ...
รมวทสหารือทูตศรีลังกาฯประสานความร่วมมือดูแลquotพลายประตูผา
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
Tags:
转载:欢迎各位朋友分享到网络,但转载请说明文章出处“泣涕如雨网”。http://47883764.telegramur.com/html/45e4399911.html
相关文章
Doku rực sáng cùng Bỉ bay đến World Cup 2026
综合Trước đối thủ yếu, Bỉ sớm mở tỷ số với pha đánh đầu cận thành của VanakenDoku tỏa sáng nhân đôi cách ...
【综合】
阅读更多市场监管部门重拳整治私域直播乱象
综合新华社北京10月15日电题:市场监管部门重拳整治私域直播乱象新华社记者赵文君通过“伪科学养生课”“专家一对一咨询”等形式诱导营销,将普通商品包装成医治百 ...
【综合】
阅读更多剑与远征破碎之墟平民通关攻略
综合剑与远征破碎之墟怎么打?平民用什么阵容比较容易通关破碎之墟?下面小编就为大家整理带来剑与远征破碎之墟平民通关攻略:如果你跟我一样没光盾,没棺材,那你可以考虑一下:1.绿色路线低战力也能过不说了2.蓝色 ...
【综合】
阅读更多